คอลัมน์ กลยุทธ์ธุรกิจพิชิตตลาด

ตอน การปรับตัวทางธุรกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในยุคดิจิทัลเปลี่ยนโลก

ครึ่งปี 2563 ที่ผ่านมานั้น บริษัทที่ทำธุรกิจค้าปลีกมากกว่า 100 บริษัทในสหรัฐอเมริกาทยอยปิดสาขาตัวเองไปเรื่อยๆ

ซึ่งเกิดจากปัจจัยพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เป็นรูปแบบออนไลน์หรือ e-Commerce มากขึ้น และยังให้คุณค่าด้านความยั่งยืนมากขึ้น

ความเร็วในการบริการที่สามารถตอบสนองลูกค้ารายบุคคลได้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในยุคดิจิทัลขณะนี้ ร้านค้าจึงต้องเพิ่มประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านให้มากขึ้น เช่น การนำระบบแสดงรายการสินค้าและโปรโมชั่นผ่านจอดิจิทัลที่สามารถค้นหาโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างแม่นยำ หรือแม้แต่สามารถเช็คได้ว่าสินค้าในร้านค้ามีข้อมูลเชิงลึกอะไรบ้าง แหล่งผลิตมาจากที่ไหน ของจริงหรือไม่ เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย มีบริษัทหลายแห่งที่เริ่มขยับตัวเข้าสู่ร้านค้าอัจฉริยะ อาทิ

•  เดอะ มอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับไทยพาณิชย์ สร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไร้เงินสดผ่านการชำระเงินดิจิทัล
• สยามแม็คโคร มีเทคโนโลยี IoT และ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็วและแม่นยำให้กับธุรกิจของลูกค้า จะเชื่อมโยงการบริการจัดการร้านค้า พนักงาน  คู่ค้า และลูกค้าเข้าด้วยกัน
• AIS พัฒนา “AIS digit ALL SHOP” ร้านค้าอัจฉริยะใช้หุ่นยนต์แทนพนักงานเพื่อให้บริการลูกค้าไม่เสียเวลารอคิวนานๆ
• 7-11 สาขา ทรู ดิจิทัล พาร์ค ใช้เทคโนโลยี Facial Biometric Identification สแกนใบหน้า ช่วยให้ซื้อสินค้าในร้านสะดวกมากขึ้น
• เครือสหพัฒน์ ทำร้านค้าอัจฉริยะ ไร้พนักงานในร้าน “His & Her Smart Shop” ได้ร่วมกับ ทรูบิสิเนส ในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ด้วยระบบจดจำใบหน้ามาใช้ และยังช่วยอ่านป้ายราคาอัตโนมัติ โดยไม่ต้องหยิบสินค้าขึ้นมาอ่านทีละชิ้น แต่สามารถวางทั้งตระกร้า และแสดงรายการที่ต้องชำระเงินได้อย่างสะดวก

ร้านค้าต่างๆ ได้มีการปรับตัวให้สามารถแข่งขันกับโลกออนไลน์ที่เปลี่ยนไปทุกวัน และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าเมื่อมาใช้บริการ ซึ่งช็อปปิ้งออนไลน์ไม่สามารถตอบสนองได้ เราต้องปฏิสัมพันธ์กับโลกที่จับต้องได้เช่นกัน
ซึ่งธุรกิจร้านขายยาก็สามารถนำดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้เช่นกัน ปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ